เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 24 พ.ย. ร.ต.ท.สุริโย ไชยยอด พงส.สภ.สระแก้ว จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 3 ต.ตลิ่งชัน จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อัครัช บัวจงกล ผกก.สภ.สระแก้ว จ.สุพรรณบุรี และกำลังฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุบริเวณริมคลองห่างจากบ้านที่จัดงานประมาณ 20 เมตรพบเพียงกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บถูกส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้จำนวน 2 ราย ทราบชื่อนายจักรวาล บุญแช่มชู อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 410/3 หมู่ที่ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ถูกแทงเข้าที่บริเวณหน้าท้อง 1 แผล และนายเอกพัน บุญแช่มชู อายุ 23 น้องชาย ถูกแทงเข้าที่ใต้ราวนมด้านขวา 1 แผล แต่นายเอกพัน ทนความเจ็บปวดไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนนายจักรวาล พี่ชายอาการสาหัส หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสมชาย ยอดมะปราง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 5 ต.สนามคลี อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้าน
สอบสวนนายสมชาย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุตนได้ไปร่วมงานโกนผมจุก ที่เจ้าภาพได้แจกการ์ดเชิญและมีดนตรีขับกล่อม กระทั่งงานใกล้เลิกมีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นกำลังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันภายในงาน ตนเองจึงเดินเข้าไปช่วยห้ามปรามโดยบอกกับนายเอกพล ไม่ทราบนามสกุลหัวหน้าแก๊งซึ่งรู้จักกันให้พาลูกน้องกลับเพราะจะทำให้งานบุญเสียหาย แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นลูกน้องนายเอกประมาณ 7-8 คนกรูเข้ามารุมทำร้าย ตนเองพยายามปัดป้องแต่สู้ไม่ไหวจึงใช้มีดปอกผลไม้ที่พกติดตัวมาแทงสวนกลุ่มวัยรุ่นที่รุมร้ายตนเองเพื่อป้องกันตัว โดยไม่ทราบว่าแทงถูกใครบ้าง หลังจากนั้นก็วิ่งหนีกลับไปที่บ้าน จนกระทั่งเช้าก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุมตัวที่บ้าน
พ.ต.อ.อัครัช บัวจงกล ผกก. เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าก่อนเกิดเหตุทราบว่าบ้านหลังที่เกิดมีการจัดงานโกนผมจุกมีการว่าจ้างวงดนตรีมาทำการแสดง ก่อนที่งานจะเลิกก็มีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นทะเลาะวิวาทกัน เมื่อนายสมชาย ผู้ต้องหาเห็นเหตุการณ์จึงเดินเข้าไปห้ามปราม เนื่องจากรู้จักกับนายเอก ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งน่าจะพอห้ามปรามกันได้ ทำให้นายเอกไม่พอใจจึงสั่งให้ลูกน้องรุมทำร้ายนายสมชาย ก่อนที่นายสมชายจะใช้อาวุธมีดที่พกมาแทงกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามารุมทำร้ายจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าวอย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สอบสวนสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น